พระธรรม เพลงซาโลมอน
บทเพลงไพเราะยิ่งของกษัตริย์ซาโลมอน
เพลงบทแรก
หญิงสาว
ระลึกริมฝีปากฝากจูบฉัน ใจกระสันสุดซึ้งคะนึงหา
รักของเธอสดชื่นรื่นอุรา หวานยิ่งกว่าเหล้าองุ่นละมุนละไม
ชื่อของเธอทำให้ฉันใฝ่นึก หวนระลึกกลิ่นสกนธ์ฤาทนไหว
ในโลกนี้ไม่มีสตรีใด สุดอดใจรักเธอเพ้อรำพัน
เชิญมาพาฉันไปเถิดทูนหัว อย่าเกรงกลัวสิ่งใดในตัวฉัน
รับฉันไปสู่ห้องของเธอพลัน เธอเท่านั้นจอมใจยอดไมตรี
เพราะมีเธอฉันนี้จึงมีสุข ให้เราสนุกเริงรักสมศักดิ์ศรี
ดื่มองุ่นพลอดรักฝากวจี ไม่ผิดที่หมายปองครองรักเธอ
ผิวกายฉันดำขำคล้ำเพราะแดด ซึ่งเผาแผดฉวีวรรณฉันเสมอ
ผิดจากสาวชาวกรุงที่เจอะเจอ ผิวพวกเธอขาวชืดดูจืดตา
สีกายฉันคล้ายสีกระโจมใหญ่ ตั้งอยู่ในทะเลทรายแดดฉายกล้า
เหมือนสีแห่งอาภรณ์กษัตรา พระภูษาซาโลมอนสุนทรธรรม์
อย่ารังเกียจผิวสีที่แดดกล้ำ ฉันต้องทำงานไร่ใช่แสร้างสรร
พวกพี่ชายเคี่ยวเข็ญเป็นสำคัญ ไม่มีวันนำพารักษาตน
เธอจะต้อนสัตว์เลี้ยงไปที่ไหน ช่วยบอกให้ฉันแจ้งถึงแห่งหน
เมื่อยามเที่ยงพักร้อนผ่อนสกนธ์ ณ ตำบลหนไหน ฉันใคร่ตาม
เพื่อฉันนี้จักไม่เสียเวลา เที่ยวค้นหาสับสนเกรงคนหยาม
ในหมู่เขาเหล่าผู้มักวู่วาม อาจเกิดความขัดข้องหมองน้ำใจ
คู่รัก
โอ้แม่ยอดยุพดีที่น่ารัก ไม่รู้จักที่นั่นหรือไฉน
เธอตามฝูงสัตว์เลี้ยงสู่ย่านไกล พบทุ่งใหญ่ชายป่าหญ้าอุดม
จงไล่แพะของเธอมุ่งสู่ทุ่งหญ้า ตรงเบื้องหน้าจำเพาะที่เหมาะสม
ข้างกระโจมเมษบาลย่านรื่นรมย์ ชวนชื่นชมทิวทัศน์สงัดคน
เธอช่างสวยรวยเสน่ห์เก๋ผุดผาด ชายหมายมาดยื้อแย่งทุกแห่งหน
เหมือนม้าศึกฟาโรห์เริงคำรณ เมื่อได้ยลม้าสาวผะผ่าวใจ
ผมของเธองามย้อยห้อยที่แก้ม บ้างตกแซมต้นคอลออไสว
เกิดประกายแวววับจับฤทัย เปรียบแสงในรุ้งเพชรวิเศษครัน
แต่เราหมายทำสร้อยสุพรรณสลับ โดยประดับเงินถมให้คมสัน
หญิงสาว
ยามเธอนอนคงถึงตลึงงัน กลิ่นสุคันธ์หอมฟุ้งจรุงฆาน
เธอจะได้รวยรินกลิ่นมดยอบ จักชมชอบอ้อมแขนที่แสนหวาน
อยู่แนบอกของฉันนานแสนนาน คือวิมานของฉันนิรันดร
เปรียบเธอเหมือนเอื้องไพรดอกไม้ป่า งามสง่าสวยเก๋อวดเกสร
บานอยู่ในไร่องุ่นอันสุนทร แห่งนครเจ้าเสน่ห์เอนเกดี
คู่รัก
เธองามจริงเกินหญิงทั่วประเทศ ในดวงเนตรแจ่มจรัสรัศมี
ยั่วให้เกิดแรงรักใจภักดี ชีวิตนี้ยอมตายมุ่งหมายเธอ
หญิงสาว
พ่อยอดชายของฉันช่างบรรเจิด เธองามเลิศไฉไลหาใดเสมอ
ประกายรักฉายจากนัยน์ตาเธอ งามเลิศเลอสูงศักดิ์ลักขณา
ฉันฝันถึงเรือนหอที่รอรัก ให้สมศักดิ์สมมาดสมปรารถนา
ใช้ไม้ขื่อค่าล้นต้นสีดาร์ เพดานฝ้าไม้สนวิมลพันธุ์
ที่ลานบ้านจะทำสนามหญ้า ปลูกพฤกษาสารพัดล้วนจัดสรร
บนหญ้าเขียวขจีที่ว่านั้น ต่างสุพรรณเตียงตั่งนอนนั่งชม
บทที่ 2
ฉันเป็นเพียงกุหลาบป่าทุ่งชาโรน ไม่โลดโผนชวนชิดสนิทสนม
เป็นเช่นดอกพลับพลึงมิพึงชม เกิดในร่มหุบเขาลำเนาเนิน
คู่รัก
เธอเป็นเหมือนพลับพลึงไพรในพุ่มหนาม ดูเด่นงามสารพัดไม่ขัดเขิน
ฉันรักเธอจริงใจใช่บังเอิญ รักเทิดเทินรักจริงกว่าหญิงใด
หญิงสาว
พ่อยอดชายของฉันบรรเจิดจ้า เด่นยิ่งกว่าชายอื่นเป็นไหน ๆ
เปรียบแอปเปิ้ลไม้ต้นผลอำไพ เด่นในไพรพฤกษาเป็นอาจิณ
ฉันขอพึ่งในคุณได้อุ่นกล้า ใต้ร่มเงาชื่นชมสมถวิล
กายของเธอสดใสไร้ราคิน ขจรกลิ่นหอมสนิทจุมพิตกาย
เขาพาฉันไปงานสันนิบาต เหลือบมองปราดศรรักปักที่หมาย
ฉันอ่อนเปลี้ยเพลียไปไม่เสื่อมคลาย ยังมิวายพิศวาสเฝ้าบาดใจ
ขอให้ฉันได้กินองุ่นแห้ง อย่าให้แล้งน้ำจิตพิสมัย
ขอแอปเปิ้ลให้ฉันกินทันใด เพื่อจะได้สดชื่นตื่นภวังค์
มือซ้ายเธอประคองศรีษะฉัน มือขวานั้นลูบไล้ด้วยใจหวัง
หญิงชาวกรุงทั้งหลายตั้งใจฟัง อย่าหยุดยั้งรักเรามั่น จงสัญญา
เพลงบทที่ 2
หญิงสาว
ฉันได้ยินเสียงเธอวิ่งแผ่วเบา ข้ามภูเขาเบื้องหน้ามาหาฉัน
เหมือนกวางหนุ่มเยื้องกรายใจผูกพัน ยืนงงงันเงาดำนอกกำแพง
มองเข้ามาทางลูกกรงตรงหน้าต่าง ด้วยท่าทางประจักษ์รักแถลง
เธอมองฉันโดยใจใคร่แสดง จึงแกลงถ้อยคำจำนรรจา
คู่รัก
ขอเชิญไปกับฉันเถิดที่รัก อย่าได้พักภวังค์ก่นกังขา
เหมันต์กาลผ่านไปหลายเวลา ฝนจากฟ้าหยุดตกวิหคบิน
ดอกไม้บานทั่วไปในชนบท ถึงกำหนดร้องเพลงครวญหวนถวิล
ฟังซิฟังนกเขาคูอยู่อาจิณ พากันบินหมายมุ่งข้ามทุ่งนา
ผลมะเดื่อเหลืองเรื่อเมื่อเริ่มสุก ชวนสนุกชื่นบานเชิญหรรษา
เธอจะรื่นรวยรินกลิ่นผกา องุ่นป่าบานหอมย้อมหทัย
ขอเชิญไปกับฉันเถิดที่รัก ให้ประจักษ์ซื่อตรงสิ้นสงสัย
อย่าซ่อนตัวเหมือนนกพิราบไพร หลบอยู่ในซอกหินไม่บินจร
ขอฉันเห็นพักตราที่น่ารัก เพื่อตระหนักใบหน้าดวงสมร
ให้ได้ฟังเสียงเสน่ห์แห่กล่อมนอน โอ้บังอรของฉันขวัญชีวี
ดอกองุ่นไร่เราบานสะพรั่ง เป็นความหวังสวนรักสมศักดิ์ศรี
หมาจิ้งจอกพาลูกมาราวี เชิญพวกพี่จับมันฟันให้ตาย
หญิงสาว
เราต่างเป็นของกันและกันสนิท เธอใกล้ชิดเลี้ยงแกะก็มากหลาย
ดอกไม้ป่ากล่นเกลื่อนเป็นเพื่อนกาย พ่อยอดชายเช้าเย็นเป็นเพื่อนใจ
ลมยามเช้าโชยช่วยระรวยรื่น ให้สดชื่นทิพรสช่างสดใส
ความมืดมนอาภัพดับสูญไป เหมือนเกิดใหม่ค่อยฟื้นคืนชีวัน
กลับมาเถิดคนดีสุดที่รัก ช่วยเป็นหลักดวงใจให้แก่ฉัน
กลับมาเหมือนกวางหนุ่มที่ว่านั้น ข้ามเขื่อนกั้นภูเขาลำเนามวล
บทที่ 3
ทุกคืนนอนฉันสะท้อนฤทัยคิด เกิดนิ มิตรสารพันที่ผันผวน
ไม่พบเธอสักครั้งยังคร่ำครวญ ต้องกำสรวลจำทนคนเดียวดาย
ฉันลุกขึ้นเที่ยวค้นดั้นด้นหา ตามมรรคาถนนซอยก็คอยหาย
เที่ยงมุ่งจ้องมองหาจนตาลาย ไม่พบชายคู่รักประจักษ์มา
เมื่อฉันพบทหารยามรักษาการณ์ บนทางผ่านพิทักษ์อารักขา
ฉันถามเขา “เห็นคู่ชูชีวา คู่รักข้าเห็นบ้างไหมไขวจี”
แต่พอฉันจากยามที่ถามนั้น พบยอดขวัญคู่รักสมศักดิ์ศรี
ฉันกอดเธอแน่นสนิทชิงฤดี มิให้หนีจากซ้ำระกำทรวง
ฉันพายอดดวงใจไปบ้านแม่ ถึงท่านแก่ยากเข็ญยังเป็นห่วง
ในห้องแม่เผยใจไร้ลมลวง สิ่งทั้งปวงสวยหรูเหมือนอยู่วัง
จงสัญญากับฉันเพื่อมั่นจิต ให้ศักดิ์สิทธิ์สดใสดั่งใจหวัง
หญิงชาวกรุงทั้งหลายตั้งใจฟัง อย่าหยุดยั้งรักเรามั่นจงสัญญา
เพลงบทที่สาม
หญิงสาว
แน่ อะไรมาจากถิ่นกันดาร เหมือนกำยานกลุ่มควันชวนหรรษา
ที่พ่อค้าขายเร่ทุ่มเทมา ชื่นนาสาพาใจให้สำราญ
ดูซิคน หามวอรอประทับ เหมาะสำหรับซาโลมอนราชฐาน
ที่ทหารองครักษ์บริวาร ห้อมล้อมท่านตามเสด็จหกสิบคน
ล้วนทหารชั้นยอดแห่งชาติยิว นำชัยลิ่วชัดแจ้งทุกแห่งหน
ชำนาญดาบกรำศึกฝึกผจญ ป้องสกนธ์จากศัตรูคู่ณรงค์
ซาโลมอนประทับบนวอไม้ งามวิไลลออเอี่ยมเยี่ยมระหง
ไม้สลักประณีตกรีดบรรจง สมวอทรงองค์กษัตริย์ขัตติยา
เสาวอหุ้มด้วยเงินเกินพิกัด ม่านจรัสดิ้นทองผุดผ่องค่า
เบาะอ่อนนุ่มหุ้มด้วยสุพัตรา สีม่วงจ้าแจ่มใสละไมละมุน
หัตถศิลป์หญิงสาวชาวกรุงล้วน จึงคู่ควรขัตติเยศพิเศษสุนทร์
เธอทำด้วยเลื่อมใสในการุญ พึ่งพระคุณจงรักและภักดี
เชิญหญิงสาวชาวศิโยนเข้ามาเฝ้า กษัตริย์เจ้าซาโลมอนผู้ทรงศรี
พระองค์ทรงมงกุฎดุษฎี พระชนนีสวมท่านวันครองเมือง
ในวันนั้นซาโลมอนโสมนัส จิตจรัสปัญญากว่ากาลก่อน
อภิเษกพระองค์ทรงพระพร ประชากรปรีดาทั่วหน้ากัน
บทที่ 4
คู่รัก
ที่รักจ๋าเธอสวยรวยเสน่ห์ ดวงตาเก๋เย้ายวนชวนชายฝัน
ซ่อนอยู่ในผ้าคลุมหน้าของเธอนั้น ยั่วให้ฉันปลาบปลื้มจนลืมตน
ผมเธอหยักศกพลิ้วปลิวไสว พิศชมไปเพลินตาน่าพิศวง
ธรรมชาติสร้างสรรค์สุดบรรจง ให้ฉันหลงเสน่ห์คำเพ้อรำพึง
ฟันเธอขาวแวววาวราวไข่มุก สกาวสุกไฉไลชวนใฝ่ถึง
ฟันเธอสวยกว่าเพื่อนเหมือนอย่างกลึง ช่างงามซึ้งไร้ราคีทุกซี่เทียว
ฟันระเบียบเรียบกระไรไร้ที่ติ ฉันนี่สิหมายมั่นกระสันเสียว
รักของฉันแน่วแน่แท้จริงเจียว โปรดแลเหลียวเมตตาและปราณี
ริมฝีปากผุดผาดเหมือนชาดแต้ม แดงที่แก้มงามสง่าชูราศี
ฉันชอบเธอยามเยื้อนเอื้อนวจี ล้ำเทพผู้ใดในจักรวาล
ลำคอเธอระหงทรงกลมเกลี้ยง ดั่งหอเวียงดาวิดพิศฝันหวาน
อัศวินดาษดื่นหมื่นชายชาญ ภิวันท์กรานวางดาบกราบตักเธอ
ถันของเธอสองข้าเหมือนกวางแฝด ที่หลบแดด เล็มหญ้ากลางป่าเสมอ
ท่ามกลางดอกไม้ไพรใฝ่ละเมอ ฉันเฝ้าเพ้อเพราะรักสลักใจ
ถึงตอนสาย พระพรายรำเพยพัด จึงขจัดมือฟ้านภาใส
ฉันจะคอย รอเธอเสมอไป บนเขาใหญ่มดยอบที่ชอบขม
ที่รักจ๋าเธอสวยสุดสวาท ฉันหมายบาดจักอยู่เป็นคู่สม
เธอเป็นหญิงงามพร้อมย้อมอารมณ์ ให้ชื่นชมแช่มชื่นทุกคืนวัน
เชิญลงจากภูผาเลบานอน เชิญบังอรงามสรรพไปกับฉัน
ข้ามยอดเขาอามานามาด้วยกัน ข้ามเขตคันลำเนาเขาเสนีร์
ทั้งสิงห์ใหญ่เกรียงศักดิ์พยัคฆี เสือดาวมีไปกับฉันอย่าหวั่นใจ
นัยน์ตาหวานเธอเยื้องชำเลืองฉัน แว่บเดียวนั้นมีค่าล้ำสุดพร่ำไข
สร้อยที่สวม คอเธอเพ้อความนัย เหมือนดวงใจถูกขโมยโดยเธอครอง
เหล้าองุ่นที่ว่าหวานไม่ปานรัก ฉันประจักษ์รสนี้ไม่มีสอง
กลิ่นกายเธอแสนหอมย้อมจิตปอง ประทิ่นผองพ่ายกลิ่นประทิ่นเธอ
น้ำผึ้งหวานไม่ปานริมฝีปาก แม่เพื่อนยากยาจิตมิ่งมิตรเสมอ
ลิ้มของเธอหวานฉ่ำล้ำเลิศเลอ ใช่ฉันเพ้อรำพันจำนรรจา
เสื้อผ้าเธอหอมฟุ้งจรุงกลิ่น ยังรวยรินชื่นจิตติดนาสา
เหมือนกลิ่นหอมแสนหวงปวงผกา กลิ่นบุปผาภูเขาเลบานอน
โอ้ เส้าสาวยอดชีวินของฉันเอ๋ย จักเปรียบเปรยอุปมาอุทาหรณ์
เป็นสวนขวัญบรรเจิดเลิศพระพร ถิ่นพักผ่อนที่สงวนเป็นส่วนตัว
มีกำแพงล้อมรอบขอบเขื่อนกั้น บ่อน้ำนั้นใช่ตื้นทะมึนสลัว
สรรพสัตว์โพยภัยไม่ต้องกลัว เพราะมีรั้วกำแพงกั้นกันศัตรู
พฤกษชาติงอกงามอร่ามสวน จึงคู่ควรอำนวยให้สวยหรู
ผลทับทิมเลิศงามล้ำดำรู เหมือนได้อยู่ในแดนแมนวิมาน
มีต้นเทียนซ้ำแทรกต้นแฝกหอม ช่างเพียบพร้อมกลืนกลมผสมผสาน
หญ้าฝรั่นอบเชยตะไคร้สะคราญ พืชกำยานประทิ่นกลิ่นขจร
อีกทั้งต้นมดยอบกฤษณา ล้วนพฤกษาปูชิตมหิศร
ยอดเครื่องหอมประทิ่นกลิ่นขจร ชั้นบวรจรุงใจไม่รู้วาย
มีน้ำพุพุ่งไหลไปรดสวน โดยขบวนสืบต่อเป็นท่อสาย
จากภูเขามีชื่อลือขจาย นามจำง่ายเรียกว่าเลบานอน
หญิงสาว
ที่รักจ๋าตื่นเถิดอย่าช้าเฉย ลมรำเพยประดังเหมือนสังหรณ์
ทั้งลมเหนือลมใต้ใจรอนรอน ขอพระพรคุ้มครองช่วยป้องกัน
ให้ลมนั้นพากลิ่นประทิ่นสวน จากขบวนไม้หอมมากล่อมขวัญ
เชิญที่รักชมสวนสำรวลครัน ฉันป้อนปันผลไม้ให้แก่เธอ
บทที่ 5
คู่รัก
เจ้าสาวจ๋าฉันเข้ามาในสวนแล้ว แม่น้องแก้วแสนดีไมตรีเสมอ
ฉันเก็บได้มดยอบมอบแก่เธอ ทั้งเสนอยางไม้หอมเครื่องย้อมใจ
ฉันกินดื่มน้ำผึ้งหวานซึ้งสนิท รวงผึ้งผลิตจากผึ้งซึ่งสดใส
ดื่มองุ่นนมสดจนหมดไป ชื่นฉ่ำในกายจิตด้วยฤทธิ์รัก
พวกผู้หญิง
ที่รักจ๋าเชิญชิมลิ้มรสเถิด เธอดีเลิศประเสริฐมีคุณหนัก
เชิญดื่มไปตราบเท่าจนเมารัก จึงประจักษ์รักฉันอย่างมั่นคง
เพลงบทที่สี่
หญิงสาว
ฉันม่อยพับหลับไปไม่สนิท ด้วยใจคิดถึงเธอละเมอหลง
ได้ยินเสียงเคาะประตูรู้สึกงง เธอเจาะจงมาหาจากป่าไกล
คู่รัก
โปรดให้ฉันเข้าไปเถิดที่รัก อย่าช้านักดั้นด้นฉันทนไหว
อาบน้ำค้างเดินทางมากลางไพร หมายจะได้สุขสันต์จำนรรจา
หญิงสาว
ฉันปลดเปลื้อง เสื้อนอกออกเก็บไว้ จะต้องให้สวมใหม่หรือไรหนา
ฉันล้างเท้าเข้านอนก่อนเธอมา จะให้ล้างอีกคราหรือว่าไร
พ่อยอดรักชักมือจากตักฉัน เกิดประหวั่นหวามจิตด้วยพิสมัย
มิอยากให้เธอพรากรีบจาไป ความจริงใจใคร่สนิทอยู่ชิดกัน
ฉันเตรียมตัวจะเปิดประตูให้ มือฉันไซร้อาบกลิ่นประทิ่นสวรรค์
ครั้นเมื่อฉันเปิดกลอนประตูพลัน ประตูนั้นเคลื่อนไหวในทันที
ประตูเผยทันใดเธอไปแล้ว พ่อยอดแก้วลับกายหรือหน่ายหนี
ฉันอยากยินเสียงเธอเพ้อวจี แต่มิมีเสียงตอบพูดปลอบใจ
ทหารยามมาพบไล่ตบฉัน ต้องจาบัลหอบฮักเขาผลักไส
ทหารยามกำแพงแย่งเสื้อไป ฉีกทันใดต่อหน้าแสนอาดูร
โอ้ หญิงสาวชาวกรุงสิ้นทั้งหลาย หากพบชายคู่ฉันที่พลันสูญ
ช่วยบอกเธอนั้นว่าฉันอาดูร ทวีคูณร่ำไห้เป็นไข้ทรวง
พวกผู้หญิง
มีหญิงสาวสวยสุดพูดกับฉัน ว่าเธอนั้นดีไฉนจึงใฝ่หวง
เสียสละทรัพย์สินสิ้นทั้งปวง จึงตักตวงรับหมั้นกล่าวสัญญา
หญิงสาว
เธอคือพ่อยอดชายหนึ่งในหมื่น ชายดาษดื่นจริงแท้ไม่แลหา
เธอรูปหล่อแข็งแรงดีมีวิชา ยากจะหาใดเทียบมาเปรียบปาน
ผมเธอยาวงามงอนเป็นลอนสวย ดำเปรียบด้วยกาน้ำเกินคำขาน
มีค่ากว่าทองคำงามตระการ ไม่เคยพานพบใครวิไลเกิน
ดวงตาเธอเหมือนตานกพิราบ สุกใสปลาบหญิงมองต้องขวยเขิน
เหมือนอบอาบนมสดรสจำเริญ ช่างชวนเชิญทัศนายอดยาใจ
แก้มของเธอน่าเย้ายวนเหมือนสวนสวรรค์ สารพันพฤกษานานาไสว
บุปผชาติหอมกรุ่นละมุนละไม สมุนไพรเครื่องเทศวิเศษพันธุ์
ริมฝีปากสีเช่นพลับพลึงชาด งามดั่งวาดจำแลงเหมือนแสร้งสรรค์
กลิ่นมดยอมหอมฟุ้งจรุงครัน เมื่อไรฉันจักได้อยู่ใกล้เธอ
เธอสวมแหวนแวววับประดับเพชร ช่างวิเศษชวนให้ฉันใฝ่ฝันเสมอ
เอวเธอกลมสมส่วนล้วนเลิศเลอ ไม่เคยเจอชายไหนวิไลเกิน
ขาของเธอแม่นแม้นเสาหินอ่อน ทั้งสองท่อนบนฐานสุพรรณเถิน
เธอน่าทึ่งเหมือนภูเขาลำเนาเนิน ฉันมองเพลินอุปมาเลบานอน
ที่มีต้นสีดาร์เฟื้องฟ้าสวรรค์ สารพันบุปผามาลาสลอน
พ่อยอดชายคนดีมีพระพร ฉันวิงวอนงามสรรพเชิญกลับมา
ปากของเธอหอมหวนชวนให้จูบ สวยทั้งรูปสูงศักดิ์เสน่ห์หา
รู้ไว้เถิด หญิงสาวชาวาพา ยอดชีวาของฉันที่มั่นใจ
บทที่ 6
พวกผู้หญิง
โอ้ สาวน้อยเลอโฉมประโลมจิต พ่อมิ่งมิตรสวยล้นไปหนไหน
เราจะช่วยตามหามาเร็วไว เพื่อเธอได้พานพบประสบกัน
หญิงสาว
พ่อยอดรักของฉันที่พลันหาย คงเยื้องกรายลอยนวลเข้าสวนขวัญ
ที่มียางไม้หอมนานาพันธุ์ จรจรัลเลี้ยงสัตว์สะพัดเดิน
คงเดินเก็บดอกไม้ในสวนศรี บรรดามีตามถนัดไม่ขัดเขิน
ดอกพลับพลึงผุดผ่องเหมือนร้องเชิญ เมื่อบังเอิญเธอผ่านบานให้ชม
เราทั้งสองเป็นของกันและกัน คู่ชีวันเฉพาะที่เหมาะสม
เธอมีฝูงสัตว์เลี้ยงไล่ระดม หลบแดดลมเข้าพึ่งพลับพลึงไพร
เพลงบทที่ห้า
คู่รัก
เธอสวยเหมือนเยรูซาเล็มนคร งามด้วยพรดั่งทีรซาห์ไม่ล้าสมัย
สองเมืองนี้งามพร้อมย้อมหทัย น่าทึ่งใจเปรียบเธอเสมอกัน
หลบสายตาจากฉันเถิดที่รัก ฉันตระหนักในเสน่ห์จิตเหหัน
ตกเป็นทาสนัยน์ตาของเธอนั้น ให้หวาดหวั่นหวิววาบซาบวิญญา
ผมของเธอหยักศกพลิ้วไสว พิศเพลินใจใฝ่ปองยามมองหน้า
ดุจฝูงแพะเต้นโลดโดดลงมา จากภูผากิเลอาดพิลาศครัน
ฟันเธอขาวดูราวกับไข่มุก สกาวสุกไฉไลน่าใฝ่ฝัน
ดั่งขนแกะฟอกถูดูคล้ายกัน ช่างงามซึ้งเป็นระเบียบเรียบร้อยดี
แก้มของเธอแดงเรื่อหลังผ้าคลุม เหมือนห่อหุ้มความสง่าชูราศี
ยามเมื่อเธอยิ้มเยื้อนเอื้อนวจี ล้ำเทพีผู้ใดในไกวัล
มีหกสิบราชินีที่ให้รัก สูงยศศักดิ์ปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
แปดสิบพระสนมงามสมครัน สาวสามัญนับจำนวนไม่ถ้วนเลย
แต่ฉันรักเธอเพียงผู้เดียวแท้ รักแน่วแน่ประจักษ์รักเปิดเผย ๙
ฉันยกเธอให้เห็นเช่นภิเปรย คำเฉลยนกพิราบซาบซึ้งใจ
เธอบุตรผู้เดียวของพ่อแม่ จึงมีแต่เกียรติยศสุขสดใส
เป็นแก้วตาของแม่แท้จริงใจ หญิงทั่วไปเฝ้ามองยกย่องเธอ
ราชินีอีกทั้งพระสนม ก็ชื่นชมร้องเพลงบรรเลงเสนอ
ทั้งเป็นเพลงบทใหม่ให้เกียรติเธอ ช่างเลิศเลอเธอนี้ผู้มีบุญ
เธอเป็นใครไฉนหนอจึงงามสรรพ งามราวกับรุ่งอรุณอุ่นโลกหมุน
ดั่งอาทิตย์จันทราเอื้อการุญ ช่วยค้ำจุนชีวิตประสิทธิชนม์
ฉันลงไปในสวนต้นอัลมอนด์ เที่ยวซอกซอนเรื่อยไปในไพรสณฑ์
เพื่อดูต้นไม้งอกบอกยุบล องุ่นต้นเริ่มปริเพิ่งผลิใบ
ฉันชมดอกทับทิมบานสะพรั่ง แล้วก็นั่งชมน้ำลำธารไหล
นึกถึงเธอไม่สร่างที่ห่างไกล สักเมื่อไรจะพบประสบกัน
พิษรักรุมสุมฉันสั่นสะท้าน ใจฮึกหาญมานะจิตกระสัน
เหมือนขุนศึกกระหายสงครามครัน โอ้ใจฉันมืดมัวทั่วสรรพางค์
พวกผู้หญิง
กลับมาเถิดหญิงสาวชูเลม ให้เราเปรมใจเต้นได้เห็นบ้าง
หญิงสาว
ไฉนเธอนิยมชมท่าทาง แม่หญิงช้างเต้นระบำตามโบราณ
บทที่ 7
คู่รัก
แม่ยอดหญิงโอ้เธอผู้เลอโฉม งามประโลมเกินคำจะร่ำขาน
เท้าของเธองามแท้แลสะคราญ รองเท้าสานสมส่วนคู่ควรเธอ
ขาอ่อนเธออวบอั๋นดั่งปั้นแต่ง ดั่งช่างแสร้งจำลองปองเสนอ
สะดืองามเหมือนชามเหล้าเลิศเลอ หล่อเสมอเหล้าองุ่นกรุ่นนองเนือง
เอวของเธอกลมกลึงตึงแต่งขาว เปรียบฟ่อนข้าวสาลีเปล่งสีเหลือง
ประดับดอกพลับพลึงซึ้งประเทือง คือขาวเหลืองเด่นชัดสีตัดกัน
ถันของเธอสองข้างเหมือนกวางแฝด ที่หลบแดดในป่าพนาสัณฑ์
คอระหงเหมือนหอคอยงาช้างนั้น โอ้แจ่มจันทร์งามล้นไร้มลทิน
นัยน์ตาเธอดั่งสระน้ำเมืองเฮชโบน งามโลดโผนล้ำฤทธิ์วิจิตรศิลป์
จมูกโงสมส่วนชวนจิตจินต์ ควรเปรียบถิ่นหอคอยเลบานอน
เพราะเหตุว่าหอนี้เป็นด่านหน้า ช่วยรักษาดามัสกัสอนุสรณ์
คอหอคอยศักดิ์ศรีมีพระพร งามสุนทรสมส่วนที่ชวนชม
ศรีษะเธอดั่งภูเขาคารเมล ผมเธอแสนดำดำซ้ำสวยสม
จึงทำให้ราชันพลันระทม มานิยมยอมสมัครนักโทษเธอ
สุดที่รักเธองามแสนล้ำเลิศเลอ ถันของเธอดั่งพวงอินทผลัม
ฉันนี้ใคร่ปีนป่ายไปเก็บผล เกรงไม่พ้นตกปาล์มวาบหวามถลำ
ถันเธอเหมือนพวงองุ่นกรุ่นจิตจำ ช่างโน้มนำให้ฉันประหวั่นใจ
ลมหายใจเธอหอมกลิ่นแอปเปิล ยามเธอเขินใจฉันยิ่งหวั่นไหว
ปากเธอหอมปานองุ่นกรุ่นหทัย สักเมื่อไรจะพบประสบกัน
หญิงสาว
ถ้าเช่นนั้นฉันจะให้องุ่นไหล ไปอยู่ใกล้ริมฝีปากของเธอนั่น
เราก็ต่างเป็นของกันและกัน มุ่งสัมพันธ์สดชื่นไม่คืนคลาย
เรามาพากันไปชนบท เพื่อดื่มรสสัมพันธ์ที่มั่นหมาย
ไปพักแรมในไร่องุ่นสบาย ถึงตื่นสายก็ช่างเพราะว่างงาน
หากเราตื่นแต่เช้าจะเข้าสวน ชมขบวนพฤกษาผลาหาร
ทั้งองุ่นทับทิมที่ตระการ ผลิกิ่งก้านดอกใบชื่นนัยนา
ณ ที่นั้นตัวฉันจะมอบรัก ด้วยใจภักดิ์ชื่นบานและหรรษา
มอบให้เธอเที่ยงแท้แม้ชีวา ที่รักจ๋าวันนั้นหนอฉันรอเธอ
ผลมะเขือดูดาอิมน่าชิมชื่น ลมโชยรื่นส่งกลิ่นรวยรินเสมอ
ทั้งเก่าใหม่เก็บไว้มอบให้เธอ พ่อยอดเกลอโฉมตรูมิตรคู่ใจ
บทที่ 8
ฉันอยากให้ใครเห็นเธอเป็นพี่ คุณแม่นี้อุ้มชูเลี้ยงดูให้
แม้ผู้ใดใครเห็นมิเป็นไร ใช่อื่นไกลพี่น้องท้องเดียวกัน
เมื่อพบเธอจรลีที่ถนน แม้ผู้คนมากมายไม่ไหวหวั่น
ฉันจูบเธอสักครั้งไม่สำคัญ เพราะเรานั้นพี่น้องท้องเดียวกัน
ฉันจะพาเธอมาหาคุณแม่ ให้แล้วแต่สารพัดจะจัดสรร
เหล้าองุ่นพิเศษเครื่องเทศครัน ทับทิมคั้นช่วยปรุงบำรุงพลัน
มือซ้ายเธอประคองศรีษะฉัน มือขวานั้นลูกบไล้ด้วยใจหวัง
หญิงชาวกรุงทั้งหลายตั้งใจฟัง อย่าหยุดยั้งรักเรามั่นจงสัญญา
เพลงบทที่หก
พวกผู้หญิง
โน่น ใครหนอจากถิ่นกันดารนั่น คู่รักกันหรือไม่ไฉนหนา
เห็นคล้องแขนกันเพลินพลางเดินมา อยากเห็นหน้าทั้งคู่ว่าผู้ใด
หญิงสาว
ฉันปลุกเธอที่ใต้ต้นแอปเปิล อันจำเริญผลดอกออกไสว
ซึ่งเป็นที่ที่คุณแม่เธอเข้าไป ใต้ร่มไม้ให้กำเนิดเธอเกิดมา
เธอผู้เดียวเท่านั้นที่ฉันรัก อย่าสมัครกอดใครอื่นในหล้า
กอดแต่ฉันผู้เดียวเถิดแก้วตา แม้ชีวาสละได้ตายก็ยอม
อันความรักเหมือนเพลิงเริงพิโรธ มีเหี้ยมดหดหวงหึงรำพึงถนอม
มีอำนาจเท่าความตายมิวายตรอม แกร่งกล้าย้อมจิตปลุกทุกทุกคน
ความรักนี้มีพิษฤทธิ์ลึกลับ มีประดับโลกไว้ให้ฉงน
ถึงน้ำมากท่วมฟ้ากล้าผจญ ไม่เป็นผลดับรักได้สักครา
คนจมน้ำดื่มด่ำต้องสำลัก และก็มักดับชีวังสิ้นสังขาร
แต่น้ำรักเลิศล้ำฉ่ำอุรา ถึงท่วมฟ้าไม่รู้จักสำลักตาย
ถ้าหากใครพยายามซื้อความรัก คนเขามักนินทาว่าเสียหาย
ค่าของรักสุดสรรมาบรรยาย รักเป็นนายศักดิ์สิทธิ์มีฤทธา
พี่ชายของหญิงสาว
น้องสาวเราคนหนึ่งซึ่งน่ารัก เสียดายนักหลงเล่ห์เสน่หา
ถันเพิ่งตูมอกตันเห็นเต็มตา แต่ทว่าหนุ่มสนิทมาติดพัน
เราจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง เพื่อกีดขวางวัยรุ่นที่หุนหัน
ถ้าเธอเป็นกำแพงแหล่งสำคัญ เราจะสรรค์สร้างป้อมห้อมล้อมไว้
ถ้าเป็นเป็นประตูอยู่กับที่ เราก็มีเครื่องกั้นที่ทันสมัย
จะหาไม้สีดาร์สวยสมใจ มาสร้างใส่ลงกลอนให้งอนงาม
หญิงสาว
ฉันนี่เป็นกำแพงแข็งแรงอยู่ ซึ่งศัตรูถึงเก่งยังเกรงขาม
ถันของฉันเด่นตาสง่างาม เหมือนป้อมยามป้องกันอย่างมั่นคง
พ่อยอดรักของฉันเธอรู้แน่ ฉันมีแต่ปลอดภัยดั่งในประสงค์
เหตุมีป้อมกางกั้นอันยรรยง ช่วยดำรงพรหมจรรย์ดั่งพรรณนา
คู่รัก
ซาโลมอนมีสวนองุ่นสวย ตั้งผู้ช่วยปกปักอารักขา
เมืองบาอัลฮาโมนคนไปมา แต่อัตราค่าเช่าน่าเศร้าใจ
คนละหนึ่งพันเหรียญเจียนใจขาด โอ้อนาถคนจนสุดทนไหว
แต่เป็นเรื่องปากท้องต้องให้ไป ตามวิสัยอับจนสิ้นหนทาง
ฉันก็มีสวนองุ่นส่วนตัวฉัน ได้แบ่งปันเช่าไปไม่ขัดขวาง
แต่เช่าแบบปันส่วนจากกองกลาง ถึงเงินจางใจสุขไร้ทุกข์ทัณฑ์
ข้าแต่องค์ซาโลมอนผู้ยิ่งใหญ่ ขอโปรดได้รับคืนเปลี่ยนพันเหรียญนั่น
ของผู้เช่าสองร้อยเหรียญเท่ากัน ต้องแบ่งปันคืนจัดตามอัตรา
ยอดรักฉันหลบหน้าอยู่ในสวน เพื่อฉันล้วนคอยฟังพรั่งพร้อมหน้า
เขาอยากฟังสำเนียงเสียงกายดา ฉันก็มาเพื่อเพียงฟังเสียงเธอ
ขอฉันฟังสำเนียงเสียงเธอบ้าง ฉันอ้างว้างหวั่นไหวหทัยเสมอ
ช่างแสนนานเพียงไรมิได้เจอ เฝ้าแต่เพ้อเพราะรักสลักใจ
หญิงสาว
สุดที่รักเชิญมาหาฉันเถิด ลีลาเลิศชวนปลื้มจะลืมไฉน
เธอเยื้องย่างอย่างละมั่งหรือกวางไพร ซึ่งอาศัยบนเลาลำเนาเนิน
ณ แหล่งนั้นล้วนพันธุ์พวกเครื่องเทศ หอมวิเศษกลิ่นสวรรค์น่าสรรเสริญ
เธอมาหาคราใดชวนให้เพลิน ฉันขอเชิญเธออยู่เป็นคู่ใจ