พระธรรม ผู้วินิจฉัย

บทที่ เพลงของเดโบราห์และบาราค

                ในวันนั้นเดโบราห์และบาคาร                         ผู้เกิดจากอาบีโนอัมพร่ำเพลงว่า

ขอสรรเสริญพระเจ้าทรงฤทธา                                         ของปวงข้าอิสราเอลเป็นทาสองค์

ข้าทั้งหลายตั้งใจจะต่อสู้                                                     ปราบศัตรูให้ราบขับไสส่ง

ประชาชนรับอาสาอย่างมั่นคง                                         แจ้งจำนงด้วยยินดีแสนปรีดา

                จงฟังเถิดกษัตริย์มวลถ้วนทั้งหลาย                  ผู้เป็นนายครองพลไพร่ฟังไว้ว่า

จะบรรเลงดนตรีซึ้งชีวา                                                     กล่อมวิญญาด้วยร้องเพลงครื้นเครงครัน

ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า                                                 แห่งชนชาวอิสราเอลหฤหรรษ์

ข้าแต่องค์พระเจ้ามหัศจรรย์                                              เมื่อองค์ท่านคลาไคลไปลับตา

                จากภูเขาเสอีร์ที่สูงส่ง                                         เมื่อพระองค์ทรงดำเนินไปข้างหน้า

ออกจากแดนเอโดมดังพรรณนา                                       พสุธาหวั่นหวาดหยาดฝนพรู

จากฟากฟ้าสุราลัยไกลเกินหยั่ง                                        ฝนไหลหลั่งจากเมฆาลงมาสู่

แผ่นภูผาสะท้านหวั่นวิญญู                                               เบื้องหน้าผู้เป็นเจ้าเผ่าซีนาย

และต่อพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า                                        ชนชาติชาวอิสราเอลทั้งหลาย

ในสมัยชัมการ์เป็นบุตรชาย                                               สืบเชื้อสายอานาทผู้บิดา   

สมัยหนึ่งยาเอลเข้าปกครอง                                              ไม่มีกองเกวียนใดมาเยี่ยมหน้า

ผ่านประเทศนั้นไปไม่เฉียดมา                                          ชนนานาใช้ถนนหลังเป็นทางเดิน

                เดโบราห์เอ๋ยอิสราเอลรกร้างอยู่                       เจ้ามาสู่เมืองว่างคนห่างเหิน

เจ้าเป็นเหมือนมารดามาเผชิญ                                          เมืองถูกเมินอิสราเอลเร้นเดียวดาย

จะไม่มีสงครามในประเทศหรือ                                       อิสราเอลถือบูชาพระทั้งหลาย

เลือกเคารพพระอื่นดื่นมากมาย                                        ความเชื่อคลายเลิกละลืมพระเจ้าตน

                ในจำนวนสี่หมื่นคนชนชาตินี้                         จะไม่มีใครแกร่งกล้าน่าฉงน

ไม่ถือหอกโล่ดั้งระวังตน                                                   เลยสักคนเจียวหรือที่ช่างดีจริง

ใจฉันอยู่ที่แม่ทัพอิสราเอล                                                 และไม่เว้นพลไพร่ใจเลิศยิ่ง

อาสารบด้วยยินดีมิประวิง                                                  อย่าหยุดนิ่งสรรเสริญพระเป็นเจ้า

                จงเล่าถึงเรื่องท่านขี่ลาขาว                                 อานม้าวาวท่านนั่งดั่งเลือกสรร

และบรรดาผู้ที่ต้องอกเดินพลัน                                        เร่เหหันทุกหนแห่งแหล่งทั่วไป

ฟังให้ดีคนเอะอะ รอบสระน้ำ                                          เขากล่าวย้ำถึงชัยชนะ ธ เป็นใหญ่

เล่าถึงชาติอิสราเอลประสบชัย                                         พวกพลไพร่ยกทัพจากเมืองตน

                เดโบราห์จงยาตรานำหน้าเรา                           และตัวเจ้าจงร้องเพลงเร่งเริ่มต้น

บาราคบุตรอาบีโนอัมนำไปจน                                         เชลยเพ้นผ่านมาพาออกไป

ผู้ซื่อสัตย์จะมาหาผู้นำ                                                         ของเขาเป็นประจำนำชิดใกล้

ไพร่พลของพระเจ้าเฝ้าเตรียมใจ                                      พรักพร้อมไว้ต่อสู้หมู่ไพรี

                เขามาจากเอฟราอิมสู่หุบเขา                              เบื้องหลังเผ่าเบนยามินตามถิ่นที่

พวกแม่ทัพมาจากเมืองมาคีร์                                              นายทหารมีมาจากเมืองเศบูลุน

หัวหน้าของอิสสาคาร์มาร่วมทาง                                     ไม่เหินห่างเดโบราห์นำหน้าหนุน

อิสสาคาร์บาราคมาชุลมุน                                                  ตามหลังรุนบาราคเข้าหุบเขาไป

                เผ่ารูเบนเกิดแตกแบ่งแยกกัน                            ต่างไม่ทันตัดสินว่ามาหรือไม่

เหตุใดเขายังเลี้ยงแกะและนอนใจ                                  ข้างหลังไกลจริงหนอรอเรียกมัน

หรือคอยฟังผู้เลี้ยงส่งเสียงร้อง                                         เรียกแกะของตนไว้หรือไรนั่น

ถูกแล้วเผ่ารูเบนวิวาทกัน                                                   พัลวันร้าวแยกแตกกันไป

                เขาไม่ตัดสินใจให้เหมาะมั่น                             จะเหหันตามมาหรือหาไม่

เผ่ากาดอยู่ตะวันออกอันแสนไกล                                    ท้องน้ำใสจอร์แดนแสนสำคัญ

เผ่าดานคงหยุดยั้งกลางทุ่งนา                                            อาเชอร์พาพงศ์เผ่าเข้ายึดมั่น

อยู่ริมฝั่งทะเลกว้างต่างแบ่งปัน                                         เป็นเขตกั้นจับจองของพวกตน

                แต่ชาวเศบูลุนและนัฟทาลี                                เสี่ยงชีวีในสนามรบสับสน

ปวงกษัตริย์ออกสงครามตามผจญ                                    ที่ตำบลทาอานาคมีมากมาย

ข้างลำธารเมกิดโดเป็นที่นัด                                              จอมกษัตริย์คานาอันพลันมุ่งหมาย

จะสู้รบข้าศึกให้วอดวาย                                                     สู้เพียงกายเงินไม่ริบไม่หยิบมา

                ดวงดาราบนสวรรค์พลันช่วยรบ                      สู้เจนจบจากสวรรค์ประจันหล้า

ช่วยกันทำศึกกับสิเสรา                                                       บนฟากฟ้าชุลมุนดาววุ่นวาย

กระแสน้ำคีโชนสาดกวาดพวกเขา                                  แม่น้ำเก่าโบราณนานมากหลาย

ข้าเดินทัพต่อไปไม่เว้นวาย                                                ดังมุ่งหมายด้วยพลังข้ายังมี

                ปวงม้าศึกคึกระนองผยองกล้า                          ควบมุ่งหน้าว่องไวไปเร็วรี่

กีบกระทบเหยียบย่ำปฐพี                                                   ฝีเท้าดีขี่คล่องลำพองใจ

ทูตสวรรค์ของพระเจ้าเฝ้าตรัสว่า                                      จงแช่งด่าเมโรสโฉดไฉน

ให้สาปแช่งคนที่นั่นให้บรรลัย                                        เขาไม่ได้รบเพื่อช่วยเหลือองค์

                สตรีที่โชคดียิ่งคือยาเอล                                     ตัวเธอเป็นภรรยาน่าเสริมส่ง

ของเฮเบอร์ชาวเคไนต์สมจำนง                                        เธอดำรงชีพอาศัยในกระโจม

สิเสราขอน้ำนางกลับให้                                                    นมข้นใส่ถ้วยชามงามเฉิดโฉม

มือหนึ่งนางถือหลักตอกกระโจม                                     เตรียมตัวโถมทุบตีสิเสรา

                อีกมือหนึ่งถือฆ้อนของคนงาน                        นางจัดการตอกหัวรัวเข่นฆ่า

สิเสราศีรษะแตกแหลกกับตา                                            หลักปักคายึดดึงตรึงติดดิน

เขาซวนเซกายาลงมาพิง                                                     นอนแน่นิ่งแทบเท้าคราวจะสิ้น

ล้มฟุบอยู่ทอดกายวายชีวิน                                                 ต้องดับดิ้นนอนคู่พสุธา

                มารดาของสิเสรามายืนจ้อง                               นางเพ่งมองนอกหน้าต่างสว่างจ้า

นางดูจากหลังลูกกรงมองลงมา                                        เหตุไฉนรถศึกช้ามาล่าจริง

เหตุใดม้าคอยหายไม่เห็นกลับ                                          สตรีรับตอบเรื่องปราดเปรื่องยิ่ง

นางเฝ้าหลอกตัวว่าอย่าประวิง                                          มัวเกรงกริ่งคิดไปไม่เข้าที

                เขาอาจมัวค้นคว้าหาข้างของ                             หรือจับจองหญิงมาแบ่งแย่งอึงมี

แจกจ่ายหญิงให้ทหารด้วยอารี                                          บ้างก็มีคนละสองตามต้องการ

สิเสราคงได้เสื้องามระยับ                                                  ไว้สำหรับราชินีที่กล่าวขาน

ปักที่คอเหมาะด้วยสวยสะคราญ                                       คงสมมานเจ้านี้สิเสรา

                ข้าแต่พระเจ้าทรงดำรงอยู่                                  ให้ศัตรูของพระองค์จงหนีหน้า

สิ้นชีวิตม้วยมอดมรณา                                                        อย่าฟื้นมาทำชั่วกลั้วอบาย

แต่ให้ปวงมิตรสหายของพระองค์                                   จงยืนยงสำแดงดั่งแสงฉาย

เหมือนอรุณเบิกฟ้าทิวากราย                                             รังสีพรายแสงทองส่องฟ้าเทอญ

                และประเทศนั้นก็สงบสุขอยู่เป็นเวลา 20 ปี