พระธรรม โยเอล
บทที่ 1 โศกเศร้าเพราะพืชผลถูกทำลาย
พระเจ้าตรัสแก่ โยเอล บุตร เปธุเอล ว่า
ท่านผู้เฒ่าชราจงมาฟัง อีกทั้งแคว้นยูดาห์มาฟังขาน
เคยมีหรืออาเพศเกิดเหตุการณ์ สุดประมาณประหลาดน่าอัศจรรย์
อุบัติในสมัยท่านนั้นหรือเปล่า หรือยุคเก่าบรรพบุรุษรุดผ่านผัน
จงบอกเล่าหลานลูกที่ผูกพัน ได้พูดกันต่อไปไม่อำพราง
ตั๊กแตนตัวใหญ่ไล่กัดกิน พืชบนดินเสียหายไม่มีสร่าง
ตั๊กแตนอ่อนวัยกัดไม่วาง ต่างตัวต่างกัดกินสิ้นเหลือมวล
พวกขี้เมาเจ้าจงลุกขึ้นมา ทำทีท่าเซซ้ำร่ำไห้หวน
จงร้องไห้เถิดเจ้าเฝ้าคร่ำครวญ พวกเจ้าล้วนดื่มเหล้าจนเมามาย
เจ้านักดื่มมัวเมาเหล้าองุ่น ต่างว้าวุ่นร่ำว่าองุ่นหาย
ผลองุ่นทำเหล้าเศร้าเสียดาย ถูกทำลายเสียหมดอดดื่มกิน
ตั๊กแตนมากมายคล้ายกองทัพ บุกไล่จับโจมจู่สู้ถึงถิ่น
มีฤทธิ์เดชเก่งกล้าถลาบิน ไม่รู้สิ้นน่าเบื่อเหลือคณา
ฟันมันคมเหมือนฟันราชสีห์ มันตรงรี่บินว่อนร่อนถลา
มันทำลายเถาองุ่นขุ่นอุรา ซ้ำยังพาพวกกินจนสิ้นงาม
มันขบกัดจมเขี้ยวเคี้ยวมะเดื่อ ไม่มีเหลือเปลือกล่อนห่อนเกรงขาม
มีแต่กิ่งขาวอยู่ดูเศร้าตาม สิ้นค่าทรามเปลือกสูญอาดูรครวญ
เจ้าทั้งปวงจงร่ำไห้คล้ายหญิงสาว ที่เจ้าบ่าวหนีหน้าพาไห้หวน
มาด่วนตายก่อนกาลอันสมควร วิวาห์จวนจัดสรรพลันชีพวาย
ในวิหารไร้ข้าวเหล้าองุ่น พากันวุ่นมองหามาถวาย ๙
สาวกผู้บูชา ธ มิคลาย ต่างวุ่นวายครวญคร่ำร่ำโศกา
ทุ่งนาโล่งราบเลี่ยนเตียนจนหมด โศกสลดกำสรวลไห้หวนหา
พื้นแผ่นดินเศร้าหมองนองน้ำตา ทั้งธัญญาพืชผลโดนทำลาย
ผลองุ่นเหี่ยวแห้งแล้งรสล้ำ มะกอกช้ำชอกเฉาเหงาเหลือหลาย
พวกชาวนาระทมตรมมิคลาย หมดวอดวายชาวสวนล้วนเศร้าตรม
ข้าสาลีบาร์ลีไม่มีเหลือ สิ้นซากเชื้อสูญร้างสร้างขื่นขม
พืชผลปลูกทำทำลายไร้ค่าชม
พื้นดินถมจมจนหายสลายพันธุ์
องุ่นแห้งมะเดื่อเหี่ยวเหลือหลาย
ทับทิมวายแอปเปิลเหงาเฉาเหลือนั่น
อินทผลัมทรุดโทรมแทบล้มครัน เกินจักผันกลับฟื้นชื่นเหมือนเดิม
ปวงต้นไม้ทุกอย่างต่างเหี่ยวแห้ง ความร้อนแล้งรุมเร้าเข้ามาเพิ่ม
ประชาชนเคยสนุกทุกข์ซ้ำเติม ความสุขเริ่มเหือดหายไม่รู้ตัว
สาวกที่ถวายเครื่องบูชา เป็นบรรณาเนืองแน่นบนแท่นทั่ว
จงสวมเสื้อไว้ทุกข์ให้มืดมัว ต่างก้มหัวครวญคร่ำร้องรำพัน
จงค้างคืนฝากกายในวิหาร เศร้าซมซานเสื้อใส่ไว้ทุกข์มั่น
ไม่มีเหล้าข้าวถวายให้ตื้นตัน นิเวศน์ท่านว่างเปล่าไร้ข้าวปลา
จงสั่งให้ถือศีลงดอดอาหาร นมัสการประชุมกลุ่มหัวหน้า
อีกปวงชนชาติเผ่าชาวยูดาห์ รีบเร่งมาเข้าวิหารร้องขานทูล
วันของ ธ ใกล้จะมาถึงแล้ว ไม่คลาดแคล้วมลายตายดับสูญ
จะทรงทำลายล้างวงศ์ตระกูล ให้อาดูรพรึงพรั่นแสนหวั่นกลัว
พืชผลถูกทำลายลงต่อหน้า เศร้าอุราปวงชนหมองหม่นทั่ว
ในวิหารเคยสุขทุกข์พันพัว พามืดมัวหมองกมลทุกคนไป
เมล็ดพืชเฉาตายในดินแห้ง ข้าวลีบแห้งเหี่ยวจนทนไม่ไหว
มองผืนนาทุ่งร้างต่างเศร้าใจ ยุ้งฉางไร้ข้าวว่างผุพังเซ
แกะและวัวพัลวันประชันร้อง ด้วยแสบท้องโหยหิวลิ่วหันเห
ปสุสัตว์ปั่นป่วนกันรวนเร ต่างโซเซอดหญ้าพาอ่อนแรง
ข้าแต่องค์พระเจ้าขอวิงวอน ทรงไถ่ถอนบาปหายกลายแจ่มแจ้ง
เพราะต้นไม้วอดวายตายทุกแปลง ก้านเหี่ยวแห้งเกรียนไหม้เหมือนไฟลน
แม้สัตว์ป่าก็พร่ำร่ำไขขาน เพราะลำธารเหือดหายไม่มีฝน
ไร้น้ำกินสิ้นหวังทั้งสัตว์คน พาหมองหม่นวิญญาทอดอาลัย
บทที่ 2 ตั๊กแตนเป็นสัญญาณเตือนถึงวันของพระเจ้า
จงเป่าเขาสัตว์ส่งสัญญาณ บอกเหตุการณ์ฉุกเฉินเกินรู้ได้
จากภูเขาศิโยนอันเกรียงไกร ประกาศให้ชนปวงล่างรู้ตัว
ชาวยูดาห์หวั่นกลัวจนตัวสั่น เพราะว่าวันของ ธ จะปราบชั่ว
ใกล้จะมาถึงท่านนั้นน่ากลัว วันมืดมัวเมฆมากฟากฟ้าดำ
ทัพตั๊กแตนมหึมามุ่งหน้าบิน ต่างโผผินโลดถลาถิ่นคลาคล่ำ
เหมือนแสงสาดกระจายฉายเป็นลำ ไม่มีแม้นเหมือนมันนั้นแสนวุ่น
เหมือนไฟโหมโหดร้ายไหม้เป็นจุณ แสนทารุณทุกชีวิตปลิดมลาย
มันกินพืชหมดไปเหมือนไฟเผา เป็นถ่านเถ้าลามเลียจนเสียหาย
ข้างหน้าเหมือนสวนเอเดนเด่นมิวาย ข้างหลังคล้ายแดนดินถิ่นกันดาร
ไม่มีสิ่งใดหลบซบซ่อนได้ เหมือนม้าไวเจนศึกคึกเหี้ยมหาญ
ขึ้นยอดผาเผ่นโผนโจนทะยาน เสียงกังวานเหมือนรถรบเครื่องครบครัน
เหมือนหญ้าแห้งมอดไหม้กองไฟสุม มันร้อนรุมแผดเผาร้าวจิตพรั่น
เหมือนกองทัพมากหลายชายฉกรรจ์ เตรียมรบพลันออกศึกไม่นึกเกรง
เมื่อมันใกล้เข้ามาพาหวั่นกลัว ใจระรัวนึกพรั่นมันข่มเหง
หน้าซีดเซียวเขียวคล้ำเพราะยำเกรง ฝืนตนเองอย่างไรไม่หายกลัว
มันถาโถมโรมรันประจัญบาน ดูเหี้ยมหาญดุจนักรบไม่ซบหัว
ปีนกำแพงเหมือนทหารไม่หวั่นกลัว ทุกทุกตัวมุ่งหน้ากล้าผจญ
ไม่มีเปลี่ยนสิศทางไปห่างเห ไม่เกเรขวางใครให้เสียผล
ตลุยฝ่าแนวทางอย่างอดทน ไม่พร่ำบ่นหรือหยุดทรุดกายา
มันบุกโจมตีเมืองเรืองฤทธิ์แรง ข้ามกำแพงข้นบ้านควานค้นหา
ปีนหน้าต่างดุจโจรโหนขึ้นมา มันเก่งกล้าเกินตัวไม่กลัวคน
เมื่อตั๊กแตนเหล่านั้นมันถลา บินเข้ามาโจมจู่ดูสับสน
พสุธาหวั่นไหวไม่ทานทน ฟ้าเบื้องบนสะเทือนเลื่อนลั่นโครม
พระอาทิตย์พระจันทร์พลันมืดมิด ดาวทั่วทิศสลัวรางอำพรางโฉม
พระเจ้าแผดเสียงสั่งดังประโคม ลุยโพยมก้องฟ้าสุดหล้าไกล
สุรเสียงขึงขังสั่งกองทัพ ไพร่พลรับเชื่อฟังดังขานไข
มหาศาลมากมีฤทธิไกร ต่างเตรียมใจเตรียมพร้อมนอบน้อมฟัง
วันของ ธ มาถึงพรั่นพรึงนัก แจ้งประจักษ์เจนใจในคำสั่ง
น่าหวาดกลัวสุรเสียงสำเนียงดัง ใครจะยั้งหยุดอยู่ดูเหตุการณ์
พระเจ้าเตือนให้สำนึกผิด
พระดำรัสตรัสว่า “เวลานี้ กอปรการดีเถิดหนาอย่างกล้าหาญ
สำนึกผิดจริงจังดังต้องการ เราเรียกขานกลับมาพึ่งพาเรา
จงถือศีลอดอาหารคาวหวานไซร้ และร่ำไห้โศกซึ้งคนึงเศร้า
หัวใจตรมหมองหม่นจงทนเอา เพื่อให้เจ้าสำแดงทุกข์แห่งใจ
อย่าเพียงแต่ฉีกผ้าคว้าเสื้อขาด” ปวงผู้ทาสมาหา ธ เป็นใหญ่
ทรงอารีกูลเกื้อเอื้อจริงใจ ทรงเปี่ยมไปด้วยเมตตาและปรานี
ทรงอดทนทำตามพระสัญญา จงกลับมาหาเราเหล่าทาสี
เราพร้อมจะให้อภัยไว้ชีวี ไม่เฆี่ยนตีลงโทษโกรธโกรธา
ชะรอยพระทรงจะเปลี่ยนหัย อวยพรให้เราสุขปลุกหรรษา
พืชอุดมสมบูรณ์ทั้งข้าวปลา เมื่อนั้นหนาจะเก็บไว้ถวายองค์
จะถวายรวงข้าวเหล้าองุ่น ที่หอมกรุ่นจากไร่ใจประสงค์
เป่าเขาสัตว์จากศิโยนโพ้นเขาตรง พวกเจ้าจงรวมกลุ่มประชุมกัน
แล้วสั่งให้ถือศีลอดอาหาร แล้วเปิดการชุมนุมรุมสังสรรค์
คนชราทารกร่วมรวบรวมพลัน เด็กทั้งนั้นไม่เว้นเห็นเรียกมา
แม้คู่บ่าวสาวที่แต่งงานใหม่ ก็ขอให้ออกจากหอรอพร้อมหน้า
ปวงสาวกรับใช้พระบิดา ในมหาวิหารร่ำขานทูล
พระเจ้าข้าโปรดรั้งรอขอเมตตา ปวงประชาปลดบาปให้สาบสูญ
อย่าปล่อยให้ปวงข้าต้องอาดูร ช่วยเพิ่มพูนกรุณาและปรานี
อย่าให้ชนชาติอื่นยืนเย้ยหยัน ดูหมิ่นกันเยาะหยามลามเหลือที่
โดยกล่าวย้ำซ้ำซากฝากวจี “พระเจ้ามีอยู่ไหนไม่เห็นเลย”
พระเจ้าโปรดให้อุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม
พระเจ้าทรงสำแดงให้เห็นว่า ทรงเมตตาจริงจังดังเฉลย
เอาพระทัยใส่แผ่นดินถิ่นที่เคย ไม่ละเลยเวทนาประชากร
พระองค์ตรัสแก่เหล่าพวกเขาว่า เราจะมาโปรดให้ทุกข์ถ่ายถอน
มีน้ำมันมะกอกแท้อย่างแน่นอน รับพระพรมีเหล้าข้าวเต็มนา
พวกเจ้าจะอิ่มเอมแสนเปรมใจ ชนชาติใดเลิกเหยียดเกลียดน้ำหน้า
เราจะไล่พวกเหนือที่ลงมา จะนำพาพ้นไปไกลเจ้าลับ
เราจะขับบางคนในพวกนั้น จะกีดกันเขาให้ไปไม่กลับ
ให้อยู่ถิ่นกันดารเกินนานนับ ต้องทนรับทุกข์ท้อทรมาน
กองหน้าจะขับลงทะเลตาย ให้วอดวายชีวินสิ้นสังขาร
ส่วนกองหลังลงทะเลเซซมซาน ที่ประหารคือเมดิเตอร์เรเนียน
ศพของเขาทั้งสิ้นส่งกลิ่นเหม็น ไม่วายเว้นกลิ่นกลบศพคลื่นเหียน
เราตอบแทนเพื่อเจ้าเฝ้าพากเพียร สิ่งแลกเปลี่ยนที่เขาทำเจ้าช้ำใจ
ทุ่งนาเอ๋ยอย่ากลัวจงหัวเราะ เสียงเสนาะยินดีจะมีไน
เพราะพระองค์ทรงช่วยด้วยเต็มใจ ทรงทำให้ปวงข้าสุขอารมณ์
สัตว์ทั้งมวลถ้วนทั่วอย่ากลัวอด ทุ่งหญ้าสดเขียวใหม่ไม่ขื่นขม
ผลองุ่นดกดื่นชวนชื่นชม น่านิยมมะเดื่อมากเหลือเกิน
ชาวศิโยนจงรื่นระรื่นจิต ธ ทรงฤทธิ์ช่วยเหลือเกื้อกูลสิ้น
โปรดประทานฝนหลั่งลงโลมดิน ชุบชีวินถ้วนทั่วทุกตัวตน
ฤดูใบไม้ลิ่วปลิวร่วงหล่น ประทานฝนใสสดรดพืชผล
ฤดูหนาวกราวมาช่างน่ายล ประทานฝนมาเยือนเหมือนอย่างเดิม
ถึงฤดูใบไม้ผลิใบอ่อน อรชนรับฝนหล่นมาเสริม
ที่ลานนวดข้าวดีมีมาเดิม ธ ทรงเพิ่มข้าวล้นจนเต็มลาน
ที่บ่อข้างโรงหีบบีบองุ่น มีเหล้าตุนกักไว้มากไพศาล
อีกน้ำมันถมไปในโรงงาน สุขสราญชีวีบริบูรณ์
ในปีที่ตั๊กแตนกินพืชผล ต้องอับจนเสียหายมลายสูญ
เราจะใช้ให้ล้นผลเกื้อกูล จะเพิ่มพูนที่เสียหายให้กลับคืน
เราคือผู้มีอำนาจประกาศใช้ บันดาลให้ตั๊กแตนเป็นแสนหมื่น
มาลงโทษพวกเจ้านั้นทั้งวันคืน ต้องกล้ำกลืนกมลทนรับกรรม
ตั้งแต่นี้พวกเจ้าจะมีกิน ไม่หมดสิ้นตลอดวันเช้ายันค่ำ
จงสรรเสริญพระเจ้าเฝ้าจดจำ ทรงกระทำทุกอย่างช่างอัศจรรย์
ประชากรของเราไม่เศร้าหมอง ใครไม่จ้องดูหมิ่นสิ้นคนหยัน
ไม่มีใครรังเกียจหยามเหยียดครัน พระเป็นเจ้าเท่านั้นท่านคุ้มครอง
“อิสราเอล” เอ๋ยจงรู้ว่า พระบิดาสถิตกลางท่านทั้งผอง
เป็นพระเจ้าของเจ้าเฝ้าประคอง อย่าหันมองพระอื่นใดอีกไม่มี
พระเจ้าประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้
จากนั้นจะให้จิตวิญญาณเรา แก่พวกเขาทุกคนจนล้นปรี่ ๒๘
ลูกชายและลูกสาวเจ้าพวกเขานี้ จะยินดีท่องอ่านสารของเรา
ทั้งคนแก่คนเฒ่าพวกเจ้านั้น ต่างจะฝันเห็นตระหนักเกินจักเล่า
คนหนุ่มสาวคราวรุ่นดรุณเยาว์ มองเห็นเงานิมิตไพจิตรนัก
ณ วารนั้นพวกเจ้าเราจะให้ จิตวิญญาณเราไซร้ได้ประจักษ์
แม้คนรับใช้ชายหญิงยิ่งด้วยรัก จงตระหนักจริงแท้แน่นิรันดร์
สัญญาณบอกถึงวันของพระเจ้า
เราจะให้สัญญาณวันของ ธ อย่าเลยละบอกไว้จำให้มั่น
บนแผ่นดินท้องฟ้ามาประชัน เมฆเป็นควันเลือด ไฟไหม้มลาย
พระอาทิตย์จะดับลับไศล พระจันทร์ใสเคยสว่างกลับจางหาย
เป็นสีแดงเหมือนเลือดเดือดเป็นพราย มันกลับกลายไปทั่วน่ากลัวจริง
ก่อนที่วันสำคัญอันน่ากลัว มืดสลัวมัวหมองสยองยิ่ง
จะมาถึงพาให้ใจประวิง ด้วยเกรงกริ่งอาญามาถึงตัว
แต่ผู้ที่ขอ ธ จะมาช่วย ให้รอดด้วยทุกคนจนถ้วนทั่ว
ตามคำทรงตรัสไว้อย่าได้กลัว จะรอดตัวที่ศิโยนบนเขาไกล
และแห่งอื่นทั่วไปที่ในกรุง ถ้าหมายมุ่งเยรูซาเล็มเป็นส่วนใหญ่
บรรดาผู้ทรงสรรผ่านพ้นภัย เขาจะได้ชีวิตรอดตลอดกาล
บทที่ 3:1-3 นานาชาติถูกพิพากษา
ทรงตรัสว่าเวลานั้นเราจะให้ แผ่นดินใหญ่ยูดาห์มหาศาล
เยรูซาเล็มยิ่งใหญ่ใดเปรียบปาน เจริญนานเหมือนเดิมเสริมรุ่งเรือง
เราจะรวมชนชาติทุกภาษา นำเขามาซักถามตามเนื้อเรื่อง
ที่หุบเขาเยโฮซาฟัทนัดนอกเมือง เรื่องโกรธเคืองขุ่นข้องจ้องทำลาย
เราจะพิพากษาชาติเหล่านี้ ทุกสิ่งที่เขาทำนำเสียหาย
ต่อปวงชนของเราเศร้าใจกาย มอดมลายร้อนรนทุกข์ทนมา
เขาทำให้ชนชาติอิสราเอล แตกกระเด็นกระจายหลายสาขา
ต้องพลัดพรากตัดขาดญาติกา ต้องจากมาต่างประเทศใช่เขตตน
เขาแบ่งแยกอิสราเอลเป็นหลายส่วน เขาก่อกวนแผ่นดินเราเคล้าชั่วฉล
เขาทอดเต๋าตัดสินความตามกมล ใครได้คนเชลยไว้เอาไปเลย
เขาขายเด็กหญิงชายไปเป็นทาส นำอุบาทว์ชั่วช้ามาเปิดเผย
ได้เงินมาค่าเหล้าเมาเหมือนเคย แล้วยังเลยแวะไปหญิงขายตัว
บทที่ 3:9-21
“จงประกาศก้องไปในต่างชาติ จงองอาจเตรียมทำสงคราวทั่ว
เรียกบรรดานักรบให้ครบตัว ทหารทั่วทุกเหล่าเจ้าจงมา
จงตีผาลไถนาให้เป็นดาบ ซึ่งคมปลาบไว้ฟันจงสรรหา
ตีมีดขอเป็นหอกทิ่มกายา คมเฉื่อยชาก็ต้องรบจนครบครัน
บรรดาชาติที่อยู่ล้อมรอบด้าน ทุกถิ่นฐานรีบร้อนจรด้นดั้น
มาชุมนุมนัดหมายให้พร้อมกัน ยึดที่มั่นหุบเขาจงเข้ามา”
ข้าแต่พระเป็นเจ้าโปรดนำทัพ คณานับเกรียงไกรมาในหล้า
เสด็จลงมาเถิดพระบิดา เหล่าพวกเข้าเตรียมพร้อมยอมตามองค์
ตรงมายังหุบเขาเยโฮซาฟัท เป็นที่นัดพบ ธ ผู้สูงส่ง
จะพิพากษาความไปตามตรง ทุกชาติจงตระหนักประจักษ์ใจ
ชาติเหล่านั้นทำชั่วต่างมั่วสุม มาชุมนุมก่อทำนำทุกข์ให้
ตัดเขาลงเหมือนข้าวออกทิ้งไป ตัดเหมือนในยามเกี่ยวด้วยเคียวคม
จงเหยียบซ้ำเหมือนย่ำผลองุ่น ให้เหล้าขุ่นล้นถังไหลหลั่งถม
คนหมืนแสนมากมายใจโสมม ต่างซานซมในหุบเขาเฝ้ารอคอย
ในหุบผานี้หนอรอวันที่ พระภูมีเสด็จมาอย่ารีบถอย
พิพากษาความคดีที่กลางดอย จะปลดปล่อยหรือว่าจะลงทัณฑ์
พระอาทิตย์และพระจันทร์พลันมืดมัว ดาวสลัวเลือนรางพลางเหหัน
ไม่ส่องแสงสว่างกระจ่างครัน ทุกคืนวันมืดมัวสลัวลาง
พระสำหรับยูดาห์
พระเจ้าทรงแผดพระสุรเสียง ส่งสำเนียงจากศิโยนไกลโพ้นห่าง ๑๖
พระองค์ส่งเสียงสนั่นลั่นสุดทาง ไม่มีสร่างจากกรุงเยรูซาเล็ม
แผ่นดินและแผ่นฟ้าลั่นสั่นสะท้าน ก้องกังงานเหลือทนทั้งค่นเข้ม
พระเมตตามากเหลือดังเกลือเค็ม พระองค์เต็มพระทัยป้องครองปวงชน
อิสราเอลเจ้าจงรู้ว่า พระบิดาเป็นเจ้าทุกแห่งหน
สถิตอยู่ภูผาสูงเบื้องบน ช่างทานทนศิโยนนี้มีฤทธิ์แรง
เยรูซาเล็มเป็นครที่ศักดิ์สิทธิ์ ใครพิชิตไม่ลงคงเข้มแข็ง
ชนต่างชาติหรือกล้ามายุทธแย้ง ใครกลั่นแกล้งไม่ได้ไม่มีวัน
เวลานั้นหุบผานานาที่ จะมากมีเถาองุ่นจุนเจือท่าน
จะเห็นฝูงสัตว์ป่ามารวมกัน มีน้ำอันมากมายในยูดาห์
มีธารน้ำสายหนึ่งซึ่งหลั่งไหล มาจากในวิหาร ธ เลิศล้า
ทำให้เขาอากาเซียชุ่มชื่นตา มีน้ำมาบริบูรณ์เพิ่มพูนพร
อียิปต์กลายเป็นแดนแสนกันดาร ทั่วถิ่นฐานระแหงโหยแห้งร้อน
เอโดมกลายร้างถิ่นแล้งดินดอน ยุคเข็ญจรทุกข์ทับกลับระทม
เพราะมันมาโจมตีถึงที่ถิ่น รบแผ่นดินยูดาห์พาขื่นขม
มันฆ่าคนไร้ผิดจิตโสมม มันนิยมกิจการประหารคน
เราแก้แค้นแทนคนที่ถูกฆ่า ลงอาญารังควานผลาญให้ป่น
ไม่ปล่อยผู้ผิดให้รอดตน หรือหลุดพ้นโทษทัณฑ์จวบวันมรณ์
เยรูซาเล็มยูดาห์คนอาศัย คงอยู่รอดตลอดไปไม่ถ่ายถอน
พระเจ้าจะประทับมั่นนั้นแน่นอน นิรันดรอยู่ที่เขาศิโยน