พระธรรม ปฐมกาล
บทที่ 2:23 สวนเอเดน
พระองค์ก็ได้สร้างหญิงมาจากซี่โครงชายแล้วพาเธอมาหาเขา ชายนั้นกล่าวว่า
เธอเป็นคน เช่นเดียว กับตัวฉัน
คล้ายคลึงกัน พระเจ้าสร้าง โครงร่างให้
กระดูกฉัน ปันเธอ ด้วยจริงใจ
เนื้อหนังใน ตัวฉัน แบ่งปันเธอ
เราสองคน เหมือนกัน ทรงสรรค์สร้าง
เพียงแต่ต่าง เพศไป อย่าได้เผลอ
จะเรียกเธอ ว่า “หญิง” สมจริงเออ
เพราะว่าเธอ มาจาก “ชาย” ละม้ายกัน
บทที่ 3:14-19 พระเจ้าลงโทษมนุษย์
พระเจ้าทรง สาปงู และขู่ซ้ำ
“เพราะเจ้าทำ เช่นว่า พระพิโรธ
ทำเช่นนี้ พระองค์ จะลงโทษ
ผู้เดี่ยวโดด โดนสาป รับบาปไว้
นับแต่นี้ ต้องเลื้อยไป ด้วยใช้ท้อง
อาหารของ เจ้านั้น ท่านสรรให้
ธุลีผง- คลีดิน กินเรื่อยไป
หญิงจะไม่ ชอบเจ้า เฝ้าเกลียดชัง
มนุษย์, งู ก็จะเป็น ศัตรูร้าย
มนุษย์หมาย บดขยี้ ตีหักหลัง
เจ้าจะกัด ส้นเท้า ของเขาพัง
ไม่หยุดยั้ง เมื่อพบ ประสบกัน”
แล้วพระองค์ ทรงสาป หญิงนั้นว่า
“ให้กายา ลำบาก ยากใจพรั่น
ในเวลา ที่เจ้านี้ จักมีครรภ์
เจ็บปวดสั่น ยามคลอด ตลอดกาย
จะปวดร้าว เพียงใด ไม่พะวง
ยังประสงค์ สามีอยู่ เป็นคู่หมาย
แม้เขาวาง อำนาจ มาตร์ดังนาย
ก็ไม่วาย จงรัก และภักดี”
แล้วพระองค์ ทรงสาป อาดัมว่า
“เชื่อวาจา ภรรยา ไม่ควรที่
กินผลไม้ ที่ห้าม ทำไม่ดี
พื้นดินนี้ ถูกสาป เพราะบาปกรรม
เจ้าจะต้อง ตรากตรำ ทำงานหนัก
ไม่หยุดพัก ชั่วชีพทน เช้าจนค่ำ
เพื่อให้ดิน ผลิตอาหาร เป็นกอบกำ
จะได้นำ มาเลี้ยง ให้เพียงพอ
จะมีหนาม มากมาย ในหญ้ารก
มันขึ้นปก ดินคลุม ทั้งหลุมบ่อ
เจ้าต้องกิน ผักป่า หาตามกอ
เจ้าต้องทร- มานกาย ให้ดินดี
เจ้าจะต้อง อาบเหงื่อ ต่างอาบน้ำ
ต้องไถทำ พื้นดิน อย่างเต็มที่
จึงเกิดผล พอเพียง เลี้ยงชีวี
ทำเช่นนี้ เรื่อยไป จึงได้กิน
จนแผ่นดิน จะกลบ ลบหน้าเจ้า
เพราะว่าเรา สรรค์สร้าง มาทั้งสิ้น
เราสร้างเจ้า ขึ้นมา จากพื้นดิน
จงกลับถิ่น เป็นดินไป ให้เหมือนเดิม
บทที่ 4:23-24 ผู้ใดฆ่าอาเบล ต้องมีโทษหนัก
ลาเมคเอ่ย เฉลยเล่า กล่าววาจา
แก่ภรรยา ใหญ่ รอง ทั้งสองศรี
“อาดาห์และ ศิลลาห์ ฟังให้ดี
ตัวฉันนี้ ฆ่าชาย ตายหนึ่งคน
เพราะเขาทำ- ร้ายฉัน จำบั่นจิต
ปลิดชีวิต เด็กชาย ตายปี้ป่น
เพราะทำฉัน บาดเจ็บ เหน็บกมล
ทั้งสองคน ถึงฆาต ขาดชะตา
บุคคลใด ทำร้าย นายคาอิน
ถูกตัดสิน โทษหนัก เจ็ดเท่าหนา
ทำร้ายฉัน นั้นต้อง เพิ่มมาตร
เจ็บสิบเจ็ดเท่า ลงอาญา อย่าหย่อนเลย”
บทที่ 8:22 คำสัญญาของพระเจ้าที่ให้กับมนุษย์โลก หลังน้ำท่วมโลก
“ตราบเท่าที่ โลกคง ดำรงอยู่
องค์พระผู้ สร้างสรรค์ ประทานให้
มีเวลา เพาะปลูก ได้ดังใจ
เก็บเกี่ยวไว้ ในยุ้ง มุ่งทำกิน
มีหน้าแล้ง หน้าฝน จนหน้าหนาว
หน้าร้อนผ่าว สี่ฤดู อยู่ทั้งสิ้น
มีวัน คืน เรื่ออยไป สมใจจินต์
ไม่สุดสิ้น ตราบโลกา ยังถาวร”
บทที่ 9:6 พระสัญญาที่พระเจ้าทรงกระทำกับโนอาห์
ผู้ใดชอบ เข่นฆ่า ราวีเขา
พระเป็นเจ้า ตรัสว่า จงประหาร
เพราะทรงสร้าง มนุษย์ไว้ ได้ประทาน
ละม้ายปาน พระองค์ ผู้ทรงฤทธิ์
บทที่ 9:24-28 โนอาห์กับบุตร
เมื่อโนอาห์ สร่างเมา เขาพบว่า
บุตรชายมา ทำอะไร ให้ตนบ้าง
จึงกล่าวคำ แช่งไป ไม่อำพราง
“ให้เมืองอย่าง คานาอัน พลันทรุดลง
ตกเป็นทาส รับใช้ ให้พี่น้อง
เขาปกครอง บังคับ ขับไสส่ง.
อวยพรเชม และยาเฟท ให้ดำรง
“สรรเสริญองค์ พระเป็นเจ้า เนานิจกาล
คานาอัน เป็นทาสเชม อย่างเต็มที่
ยาเฟทมี พงศ์เผ่า เต็มวงศ์วาน
ร่วมจัดการ คานาอัน กันสองคน”
หลังจากน้ำท่วมแล้ว โนอาห์ยังมีชีวิตอยู่อีก 350 ปี ท่านถึงแก่อนิจกรรมเมื่ออายุ 950 ปี
บทที่ 12:1-3 พระเจ้าทรงเรียกอับราม
พระเจ้าตรัสกับอับรามว่า “จงออกไปเสียจากเมืองที่เจ้าอยู่ จากพี่น้องพ่อแม่เจ้าไปอยู่ประเทศที่เราจะบอกเจ้า เราจะให้เจ้ามีลูกหลานมากมาย ต่อไปเขาจะกลายเป็นชาติใหญ่ เราจะอวยพรเจ้าและให้เจ้ามีชื่อเสียง เขาจะใช้นามของเจ้าในการกล่าวอวยพร”
เราอวยพร ให้ผู้ อวยพรเจ้า
พรของเรา ดีเลิศ เกิดคุณค่า
จะสาปแช่ง ผู้ไร้ ใจเมตตา
เจตนา แช่งเจ้า เราสาปพลัน
บรรดาชาติ ทั้งหลาย ในโลกนี้
พร่ำวจี ขอพร สุนทรสรร
ให้เราอวย- พรเขา เหมือนเจ้าครัน
ทุกชีวัน วิงวอน ขอพรเรา
บทที่ 14:17-20 เมลคีเซเดคอวยพรอับราม
เมื่ออับรามกลับมาจากรบชนะกษัตริย์เคร์ลาโอเมอร์ กับพระสหายของพระองค์ กษัตริย์นครโสโดมก็เสด็จออกไปรับท่านที่เขาชาเวห์ เมลคีเซเดค กษัตริย์นครซาเลมเป็นปุโรหิตของพระเจ้าผู้สูงสุดด้วย ทรงเอาขนมปังกับเหล้าองุ่นมาให้อับราม แล้วอวรพรท่านดังนี้
ขอพระเจ้า เหนือมนุษย์ สูงสุดหล้า
ทรงสร้างฟ้า สร้างสวรรค์ สรรค์โลกด้วย
อวยพระพร อับราม เอื้ออำนวย
โปรดจงช่วย อับราม ตามพระทัย
ให้ชาวเรา แซ่ซ้อง ร้องสรรเสริญ
และยอเยิน พระผู้ เอาใจใส่
ให้ชนะ ศัตรู หมู่พาลภัย
ขอจงได้ พร้อมหน้า สาธุการ
แล้วอับรามก็แบ่งของที่ท่านริบมา แบ่งออกเป็นสิบส่วน เอาหนึ่งส่วนถวายเมลคีเซเดค
บทที่ 16:11-12 ฮาการ์ หนีนางซารายผู้เป็นนาย
ฮาการ์เอ๋ย จะได้ บุตรชายน้อย
งามแช่มช้อย น่ารัก เป็นนักหนา
จงตั้งชื่อ อิชมาเอล ผู้ปรีชา
ซึ่งแปลว่า ทรงสดับ และรับฟัง
ทั้งนี้เพราะ ทรงยินล้วน เสียงครวญคร่ำ
มาเพ้อพร่ำ ร่ำขอ รอความหวัง
ลูกของเจ้า เจริญดี มีพลัง
เขาอยู่ยัง ชายป่า เหมือนลาเปรียว
เขาต่อสู้ เคี่ยวขับ กับทุกคน
กล้าผจญ ชิงชัย ไม่หลบเหลียว
เมื่อทุกคน ต่อสู้ เขาผู้เดียว
อยู่โดดเดี่ยว แยกทาง ห่างวงศ์วาน”
บทที่ 24:60
แล้วเขาอวย พรให้ เรเบคาห์
โดยพูดว่า “น้องจง มีลูกหลาน
เป็นหมื่นพัน มากมาย ใครเปรียบปาน
ให้วงศ์วาน ชนะ เหล่าอธรรม”
บทที่ 25:19-23 กำเนิดของเอซาวและยาโคบ
ต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของอิสอัค บุตรชายของอับราฮัม อิสอัครอายุได้ 40 ปี เมื่อแต่งงานกับเรเบคาห์บุตรสาวของเบธูเอล ชาวอารัมจากประเทศเมโสโปเตมัย และเป็นน้องสาวของลาบานชาวอารัม เนื่องจากภรรยาของอิสอัคไม่มีบุตร อิสอัคจึงทูลขอพระเจ้า พระเจ้าก็ทรงโปรดให้ตามคำอธิษฐาน เรเบคาห์ก็ตั้งครรภ์ เมื่อลูกแฝดในครรภ์ดิ้นเบียดกัน เธอพูดว่า
“ถ้าจะต้องเป็นดังนี้ละก็ จะให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปทำไมเล่า”
เรเบคาห์อธิษฐานพร่ำทูลขอ แล้วเธอรอคำตอบทรงมอบให้
พระเจ้าตรัสกับเธอให้ชื่นใจ นางจะได้ดั่งคำพร่ำวิงวอน
“ชนสองชาติกำเนิดไซร้ในกายเจ้า เป็นสองเผ่าล้วนใหญ่ไม่ยิ่งหย่อน
จะชิงดีชิงเด่นเข่นราญรอน ไม่ผันผ่อนยอมแพ้แก่กันเลย
เผ่าหนึ่งนั้นเข้มแข็งแรงแกร่งกล้า จะเหนือกว่าอีกเผ่าเราเฉลย
พี่ชายจะรับใช้น้องพ้องภิเปรย น้องชายเลยเป็นใหญ่ไปเผ่าเดียว”
บทที่ 27:26-29 ยาโคบได้คำอวยพรของอิสอัค
แล้วบิดาก็กล่าวกับเขาว่า “เข้ามาใกล้ ๆ มาจูบพ่อซิลูก”
เมื่อยาโคบย่างก้าวเข้าจูบพ่อ อิสอัคก็รู้สิ้นกลิ่นเสื้อผ้า
เป็นกลิ่นของเอซาวเจ้าลูกยา เผยวาจาให้พรถาวรไป
“อันกลิ่นหอมจากตัวลูกฉันนี้ เหมือนกลิ่นที่ทุ่งนาล้าไสว
ธ ทรงอวยพรเจ้าสมดังใจ น้ำค้างใสจากสวรรค์ประทานมา
ทั่วทุ่งนาอุดมสมบูรณ์ข้าว อีกทั้งเหล่าองุ่นล้ำคุณค่า
ชนต่างชาติคำนับรับบัญชา พากันมารับใช้ไม่เกี่ยงการ
เจ้าจะเป็นนายเหนือญาติพี่น้อง ให้พวกพ้องของแม่และลูกหลาน
โค้งคำนับรับเจ้าเป็นนายงาน คอยเจือจานเกื้อกูลอุดหนุนกัน
ผู้ใดคิดสาปแช่งแกล้งว่าเจ้า ให้ตัวเขาถูกสาปบาปมหันต์
ใครอวยพรให้เจ้าเฝ้าจำนรรจ์ ขอพรนั้นตอบสนองครองตัวเอง”
ข้อ 38-40
เอซาวยังคงอ้อนวอนพ่อต่อไปอีกว่า
“พ่อมีพรเดียวเท่านั้นหรือ อวยพรให้ลูกด้วยเถิด” เขาพูดพลางร้องไห้เสียงดัง
อิสอัครจึงกล่าวแก่เขาว่า “เจ้าจะหาความมั่งมีได้ที่ไหน
ในโลกนี้หมดหวังได้ดังใจ น้ำค้างใจจากสวรรค์นั้นไม่มี่
ทุ่งนาเจ้าเหี่ยวแห้งแล้งน้ำฝน เจ้าต้องทนฝืนชีพอย่ารีบหนี
ชีวิตเจ้าดำรงยืนยงดี ด้วยดาบที่กวัดแกว่งแข่งสู้กัน
เจ้าจะต้องรับใช้น้องชายเจ้า จนตราบเท่าทรยศกบฏนั่น
จะเลี่ยงลี้หนีพรากจากไปพลัน แยกตัวผันหลีกตนพ้นปกรอง
บทที่ 49:1-28 คำพยากรณ์ของยาโคบ เรื่องบรรดาบุตรชายของท่าน
ยาโคบให้คนไปตามบุตรชายของท่านมา แล้วกล่าวว่า “มาหาพ่อพร้อมหน้ากันเถิด แล้วพ่อจะบอกให้ลูกรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต”
พวกลูกของยาโคบมาพร้อมหน้า ฟังวาจาพ่อพร่ำคำสั่งสอน
อิสราเอลพ่อเจ้ากล่าววิงวอน จำสุนทรรสถ้อยคอยพะนอ
“รูเบน”เป็นลูกหัวปีที่ดีนัก เจ้าเป็นหลักเข้มขลังพลังพ่อ
เจ้าเป็นลูกหัวปีที่พ่อรอ เกิดเมื่อพ่อหนุ่มใหญ่วัยฉกรรจ์
ลูกแข็งแรงแกร่งกล้าสามารถสุด เจ้าได้จุดความภูมิใจให้ชื่นขวัญ
เจ้าเป็นเหมือนกระแสชลท้นเชี่ยวพลัน คนสำคัญมิใช่เจ้าจงเข้าใจ
เพราะทำผิดพลาดพลั้งทั้งที่รู้ เจ้าเป็นชู้เมียพ่อคลอเคลียใกล้
เจ้าขึ้นบนเตียงนอนห่อนเกรงใจ เจ้าทำให้เตียงนี้มีมลทิน
“สิเมโอน, เลวี” สองพี่น้อง ชอบจับจ้องอาวุธยุทธดับดิ้น
พ่อไม่ร่วมรับฟังทั้งไม่ยิน ยามเจ้าผินหน้าซุ่มประชุมกัน
เพราะเจ้าฆ่าคนตายง่ายดายเหลือ ในยามเมื่อโกรธาหาหวาดหวั่น
เจ้าทำวัวพิการสงสารครัน กลับขบขันนึกสนุกสร้างทุกข์วัว
ข้าขอแช่งความโกรธโทษโทสะ เพราะโมหะเหี้ยมโหดทำโฉดชั่ว
ให้กระจัดพลัดพรากจากพวกตัว ไปอยู่ทั่วแดนยาโคบพบเคราะห์กรรม
พึงกระจายปะปนชนเผ่าอื่น ทนขมขื่นชีวีเขายีย่ำ
ท่ามกลางชาวอิสราเอลเคี่ยวเข็ญทำ ต้องตรากตรำเพราะตัวทำชั่วเอย
“ยูดาห์” เอ๋ยพี่น้องร้องสรรเสริญ เจ้าเผชิญศัตรูรบสู้เก่ง
เจ้าหิ้วคอศัตรูด้วยตนเอง พี่น้องเกรงยิ่งนักรักบูชา
ยูดาห์เก่งเกรียงไกรคล้ายลูกสิงห์ เขาเก่งยิ่งซ่อนเมื่อเหยื่อถูกฆ่า
ลงนอนเหยียดกายซ้ำทำหลับตา ใครไม่กล้าแหย่เย้ายามเขานอน
ถือคทาอำนาจองอาจกล้า เขานำมาวางที่เท้าคราวพักผ่อน
เขารักษาอำนาจไว้ไม่แคลนคลอน ไม่โอนอ่อนก่อนเจ้าของถูกต้องมา
เขาผูกลากับองุ่นมุ่นมัดเถา องุ่นเหล้าดีนักเกินจักหา
ซักเสื้อผ้าเสร็จสรรพกับเหล้ายา สีแดงร่าเหมือนเลือดเชือดไหลริน
ดวงตาเขาร้อนแรงสีแดงก่ำ เพราะดื่มร่ำเล้าไปไม่สร่างสิ้น
ดื่มน้ำนมฟันขาวคราวเคยชิน เป็นอาจินต์สมอยากมากเหลือเฟือ
“เศบูลุน”จะอยู่ ณ ริมทะเล เห็นจำเจที่นั่นกันทุกเมื่อ
ที่ริมฝั่งข้างนี้มีท่าเรือ เขตมากเหลือกว้างไกลถึงไซดอน
“อิสสาคาร์”เป็นพ่อที่แข็งแรง ลงนอนแอ่นถุงหนังใช้ต่างหมอน
เป็นที่พักผ่อนกายได้หลับนอน แผ่นดินดอนร่มรื่นน่าชื่นชม
เขาย่อตนจนพอจะรอรับ แบกสิ่งสรรพฉับพลันบรรทุกถม
ยอมเป็นทาสงานหนักอย่างซานซม เขานิยมมันนักหักโหมแรง
“ดาน”ปกครองฝูงชนคนทั้งหลาย เขาเป็นนายนำหน้าอย่างกล้าแข็ง
เขาเป็นเหมือนอิสราเอลไม่เปลี่ยนแปลง ต่างพวกแบ่งหลายเผ่าเคล้าปะปน
ดานเหมือนงูพิษมีฤทธิ์นัก ด้วยเขามักซุ่มร่างข้างถนน
ข้างทางเดินฉกกัดสะบัดจน เหล่าผู้คนตกม้าลงมาพลัน
ข้าแต่องค์พระเจ้าของข้าน้อย ข้ารอคอยพระองค์ไซร้ด้วยใจมั่น
คอยพระองค์เสด็จสู่อยู่ทุกวัน ช่วยข้านั้นพันบาปหยาบสามานย์
“กาด”จะถูกพวกปล้นเข้าทำร้าย มันแพ้พ่ายเพราะสู้อย่างกล้าหาญ
“อาเชอร์”มีที่ดินถิ่นสำราญ ยั่งยืนนานอุดมสมบูรณ์ดี
เขาจัดทำอาหารคาวหวานพร้อม เรียงรายล้อมจัดสรรกันเต็มที่
ถวายพระราชันสรรพมากมี ล้วนของดีน่าเสวยเคยรับรอง
“นัฟทาลี”เปรียบกวางที่ย่างเหยาะ วิ่งลัดเลาะเริงร่าตาจับจ้อง
อิสรเสรีสีสมปอง ช่างน่ามองน่ารักนักลูกกวาง
โอ้ “โยเซฟ” เปรียบเป็นเช่นลาป่า อยู่ข้างตาน้ำไหลไม่ยอมห่าง
ดุจลูกม้าป่าใหญ่ปีนป่ายพลาง เดินเหยาะย่างเชิงเขาลำเนาไพร
นายพรานซุ่มพุ่มไม้หมายสังหาร ตามล้างผลาญด้วยธนูจู่โจมไล่
แต่ธนูหักยับพับลงไป แขนก็ไม้มีแรงดังแกล้งดึง
ด้วยอำนาจเดชฤทธิ์พระเป็นเจ้า ของชนเผ่ายาโคบคะนึงถึง
ทรงเลี้ยงดูรักษาพารำพึง เป็นที่พึ่งอิสราเอลเป็นศิลา
พระเจ้าของบิดาพระผู้ช่วย ท่านทรงอวยพระพรและรักษา
ประทานฝนเป็นสายไหลลงมา พสุธาลึกล้ำน้ำนองดิน
ทรงอวยพรครรภ์แม่แลน้ำนม ข้างมีถมดอกไม้หอมไม่สิ้น
รับพรจากภูเขาเก่าแก่ดิน พรจากถิ่นภูผาพาชื่นชม
ให้โยเซฟได้รับพรเหล่านี้ ประดับที่หน้าผากจักสุขสม
ท่านปลีกตนเหินห้างจากสังคม แยกชมรมพี่น้องท้องเดียวกัน
“เบนยามิน”เปรียบเหมือนสุนัขป่า ชอบเข่นฆ่าสัตว์ร้ายไม่หวาดหวั่น
เก็บไว้กินตอนเช้าเท่าเย็นพลัน ทุกคืนวันชอบฆ่าเป็นอาจิณ
นี่เป็นชาวอิสราเอลสิบสองตระกูล เป็นถ้อยคำที่บิดาอวยพรเขา ให้พรที่เหมาะกับลูกทุกคน